จะกินดี...หรือไม่กินดี? ปรับสักนิดชีวิตเปลี่ยน

Last updated: 1 ก.ย. 2563  |  3820 จำนวนผู้เข้าชม  | 


   เราพูดถึงเรื่องของการกินอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพมาเยอะแล้ว แต่บนโลกใบนี้ก็ยังมีอะไรใหม่ ๆ ให้เราได้เรียนรู้และนำมาปรับใช้กันอีกมากมาย วันนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคการกินแบบง่ายๆ ที่ปรับนิดเปลี่ยนหน่อย ก็ช่วยให้สุขภาพของคุณห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ แล้ว จะง่ายและดีต่อร่างกายแค่ไหนต้องด้วยตัวเองลองครับ

 สูตรกินได้กินดีไม่ก่อโรค 6:6:1 
   6:6:1 ไม่ได้เป็นรหัสลับหรือบอกใบ้เลขเด็ดอะไร แต่ตัวเลขนี้เป็นสูตรการกินเพื่อสุขภาพด้วยการลดหวานมันเค็ม โดยกำหนดให้ “กินน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา, น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา, เกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา” นั่นเอง โดยการที่เรากินสูตรที่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน เป็นต้น ถ้าใครอยากอร่อยกับอาหารมื้อโปรดแบบไม่ก่อโรคอย่าลืมท่องสูตรนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจเลยนะครับ

 

 กินผักผลไม้อย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน 
   ผักผลไม้เป็นสิ่งจำเป็นที่คนเราควรรับประทานให้ได้ทุกวัน เพราะในผลไม้มีกากใยอาหารจากธรรมชาติ รวมถึงวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกายอยู่มากมาย ซึ่งกากใยและน้ำที่อยู่ในผักผลไม้ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารและกระบวนการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายเป็นไปตามปกติและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังไขมันต่ำและมีแคลอรี่น้อย จึงช่วยลดน้ำหนักและทำให้ผิวพรรณสดใส โดยที่ 400 กรัม จะเทียบเท่ากับ กล้วย ส้ม แอปเปิ้ล ประมาณ 3-4 ผล หรือจะแบ่งออกเป็นผักปรุงสุกหลากสี 240 กรัม กับผลไม้หวานน้อยอีก 160 กรัม และควรทานผักผลไม้หลากหลายชนิดและสีสันสลับสับเปลี่ยนกันไปด้วย อาจจะเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการซื้อผักผลไม้มาติดตู้เย็นไว้ทำเป็นสลัดหรือทานแทนขนมกรุบกรอบให้ติดเป็นนิสัยก็ได้ครับ


 เติมโฮลเกรนให้อาหารทุกมื้อ 
   “โฮลเกรน” คือธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุดเพื่อคงคุณค่าทางสารอาหารเอาไว้ ซึ่งผลการวิจัยทางโภชนาการจำนวนมากพูดถึงการบริโภคโฮลเกรนเป็นประจำว่าส่งผลดีกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะเด็กในวัยเรียน ถ้ากินโฮลเกรนเป็นอาหารเช้า ร่างกายจะย่อยอย่างช้าๆ และค่อยๆ ปลดปล่อยพลังงานออกมา ทำให้มีพลังงานอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะถึงมื้อกลางวัน ส่งผลให้เด็กมีสมาธิในการเรียน และเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ส่วนในผู้ใหญ่จะช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน ไม่กินจุบจิบระหว่างมื้อ เพราะเส้นใยและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในโฮลเกรนจะทำให้ร่างกายค่อยๆ ย่อยอย่างช้าๆ ไม่รู้สึกหิวบ่อยหรือหิวเร็ว ช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักไปในตัว นอกจากนี้หากบริโภคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งในทางเดินอาหาร โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และช่วยป้องกันท้องผูกด้วยครับ


 เดินช้อปปิ้งแทนออนไลน์ 
ทุกวันนี้เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว สิ่งของที่ต้องการก็มาส่งถึงหน้าประตูบ้านแบบไม่ต้องกระดิกตัวไปไหน กลายเป็นเพิ่มโอกาสเสี่ยงพฤติกรรมเนือยนิ่ง เราเลยอยากให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศลุกขึ้นมาแต่งตัวแล้วชวนเพื่อนหรือคนรู้ใจออกไปช้อปปิ้งเดินชิลๆ ตามตลาดนัด หรือออกไปซื้อของกินของใช้ที่ห้างด้วยตัวเองแทนที่จะใช้สมาร์ทโฟนสั่งช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่นกันสักหน่อย อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 วันก็ยังดีครับ

   ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปความก้าวล้ำของเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ แม้จะเป็นผลดีให้ชีวิตเราลดขั้นตอนในการทำกิจกรรมบางอย่างและมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น แต่ถ้าหากเราไม่บริหารจัดการเวลาที่เหลือเหล่านั้นให้ดีและติดความสบายจนกลายเป็นนิสัยก็อาจทำลายสุขภาพได้ในแบบที่เราคาดไม่ถึงครับ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการที่เรามีวินัย และรักสุขภาพนั้น พฤติกรรมเนือยนิ่งก็ไม่อาจมาทำร้ายคุณได้ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันตั้งแต่วันนี้กันครับ :)

source: manulife

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้